วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2552

Evisceration Plague ความโหดครั้งใหม่จาก Cannibal Corpse


Cannibal Corpse
Evisceration Plague
(Metal Blade/Indy Pop)

พูดถึงชื่อวงของเดธเมทั่ลจากฟลอริดาวงนี้แล้ว เห็นบ่อยๆ ที่มักให้นิยามชื่อแบบแปล เป็นไทยประมาณว่า “วงบริโภคศพ” หรืออะไรเทือกๆ นั้น แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วไม่น่าจะใช่ เพราะมันต้อง แปลว่า “ศพกินคน” เสียมากกว่า ถึงจะถูก หรือง่ายๆ ก็ดูจากรูปภาพหน้า ปกเอาก็ได้ ไม่เห็นมีชุดไหนที่เป็นภาพคนประทุษร้ายหรือสวาปามศพ มีแต่บรรดาซาก ศพปิศาจร้าย ต่างหากที่เป็นฝ่ายรุมทึ้ง ฉีกคร่าชีวิตคน เป็นๆ อย่างเหี้ยมโหดหฤหรรษ์ในแทบทุกปก แต่เอาเถอะ จะเรียกอย่างไร มันก็สุดแท้ แต่ความชอบของแต่ละคน เพราะไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรเท่ากับตัวผลงาน และตอนนี้พวกมันกลับมาอีกแล้วกับผลงานลำดับที่ 11 ที่ใช้ชื่อว่า Evisceration Plague

งานของวงนี้ยุคหลังๆ นี่เข้าขั้นน่าเบื่อจริงๆ ซ้ำซาก หยุดนิ่ง ไม่มีอะไรเปลี่ยน แปลงให้ตื่นเต้นเลย ฟังไป 3-4 เพลงก็ อยากจะปิดทิ้งเสียกลางคัน อัลบั้มอย่าง Gore Obsessed (2002), The Wretched Spawn (2004) นี่ขอบอกว่า..อย่างเบื่อ! ไม่เกี่ยวกับว่าดีหรือไม่ดี แค่รู้สึกว่าเบื่อ เบื่อเพราะมันไม่คืบหน้า ไปจาก Vile (1996) หรือ Gallery of Suicide (1998) เลย ซาวนด์แบบเดิมๆ นั้นยังไม่เท่าไหร่ แต่ที่ร้าย ก็คือไอ้ริฟฟ์แบบเดิมๆ กับทริคการเรียบเรียงดนตรีแบบเดิมๆ นี่หล่ะ เซ็งสุด! หยิบอัลบั้มไหนมาฟัง ก็ไม่ต่างกัน ไม่แปลกที่พี่แจ๊ก โอเว่น มือกีตาร์ของวง แกจะชิ่งหนีไปนาบเฮียเกลน เบนตั้น วง Deicide แทน สันนิษฐานว่าแกก็คงเบื่อเต็มทนเหมือนกัน (ฮา)

เพิ่งจะมีอัลบั้ม Kill (2006) ผลงานชุดก่อนนี่แหละ ที่ได้เฮีย อีริค รูทั่น มา โปรดิวซ์ให้ งานถึงได้ฟังกระชับ กระฉับกระเฉง กระชุ่มกระชวย ชวนหยิบเลือดสดขึ้นมาซดเคล้าคลอไปตาม ท่วงทำนองกระหึ่มโหดขึ้นมาหน่อย สงสัยทางวงเองก็น่าจะติดใจการได้ละเลงเลือดร่วมกับเฮีย รูทั่น อยู่ไม่น้อยเหมือน กัน งานนี้เลยขอเบิ้ล ชวนมาจอยกันอีกเป็นครั้งที่สองในอัลบั้มนี้

ผลที่ได้ Evisceration Plague ไม่หนีไปจากอัลบั้ม Kill คือฟังมันส์สะใจมากกว่า 2-3 อัลบั้มก่อนหน้านี้แน่ๆ แต่ถ้าจะเปรียบมวยกับ Kill เพียงชุดเดียว งานล่าสุดนี้ เข้มข้น, หนักหน่วง และมีเนื้อเพลงที่ซาดิสต์ถึงเลือดถึงเนื้อหนักข้อมากกว่า รวมถึงการเรียบเรียง ก็มีลูกล่อลูกชนที่น่าสนใจยิ่งขึ้น หรือถ้าจะบอก ว่าวงกับโปรดิวเซอร์ทำงานกันเข้าขามากขึ้นก็ไม่น่าจะผิด ลองกดไปที่เพลงอย่าง To Decompose, Beheading and Burning, Carnivorous Swarm, Shatter Their Bones เลือดได้พุ่งปรี๊ดทางจมูกลูกตาสาวกแน่ๆ เพราะอัดกันแหลก เนื้อๆ เน้นๆ ริธึ่มรวดเร็ว กระชั้นเหมือนมีดปังตอจากฆาตกรโฉดที่สับระรัวลงบนเศษเนื้ออันแหลกเหลวของเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น หรือ Unnatural ก็น่าจะจัดเป็นไฮไลท์ ของอัลบั้มได้เช่นกัน เพราะเฮีย รูทั่น ถึงกับลงมาช่วยกรีด ท่อนลี้ดเองกับมือ

บทสรุปของ Evisceration Plague อาจจะเป็นแค่อีกหนึ่งอัลบั้มเดธเมทั่ล ตามแบบฉบับของ C.Corpse สำหรับใครๆ หลายคน แต่สำหรับผมแล้วมันคืออัลบั้มที่เต็ม เปี่ยมไปด้วยความเหี้ยมเกรียมอันแสนชุ่มฉ่ำ ที่ทำให้รู้สึกสนุกกับการฟังเพลงโหดๆ ของพวกศพเดินดินกินเนื้อคนกลุ่มนี้อีกครั้ง หลังจากที่เบื่อไปนานสองนาน